จากหลักฐานรายงานการทำวิจัยที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์พบว่าในเห็ดหลินจือมีสารต่าง ๆที่เป็นประโยชน์กับร่างกายกว่า 250 ชนิด ซึี่งสารต่าง ๆ เหล่านี้ทำงานประสานกันได้อย่างน่าอัศจรรย์ ส่งผลให้ร่างกายเกิดความสมดุล เพิ่มพลังในการป้องกันและบำบัดโรค ระบบที่ธรรมชาติมอบให้ก็จะกลับมาทำงานได้ดังเดิม ซึ่งสามารถอธิบายในเชิงเภสัชวิทยาว่า หลินจือออกฤทธิ์ 5 ระบบ ดังต่อไปนี้
ร่างกายคนเรามีระบบภูมิคุ้มกันคอยจัดการกับเชื้อโรค และสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย โดยอาศัยเม็ดเลือดขาวเป็นตัวคอยทำลายเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอม คนปกติควรมีเม็ดเลือดขาวประมาณ 6,000 เซลล์ต่อหนึ่งลูกบาศมิลลิเมตร หากน้อยกว่านี้แผลก็จะหายช้าหรือเป็นแผลเรื้องรัง แม้แต่โรคน่ากลัวอย่างมะเร็ง (Cancer) ซึ่งเป็นโรคที่ไม่มีเชื้อโรค แต่เกิดจากเซลล์ของร่างกายที่ผิดปกติและกลายพันธุ์ พร้อมกับมีการขยายตัวเติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งยังแย่งอาหารจากร่างกายจนร่างกายอาจขาดสารอาหาร สาเหตุที่ทำให้เซลล์เพี้ยนและกลายพันธุ์ก็เนื่องมาจากถูกอนุมูลอิสระดึงประจำไฟฟ้าออกไป ซึ่งโดยสภาพปกติของการดำรงชีพแล้ว เซลล์ผิดปกติเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แต่ก็ถูกเม็ดเลือดขาวกำจัดตลอดเวลาเช่นกัน ซึ่งหากเรารับสารก่อมะเร็งเข้าไปมาก จนเม็ดเลือดจาวกำจัดไม่ทัน ก็จะเกิดมะเร็งและอาจเติบโตลุกลามไปทั่วร่างกาย จนทำให้เสียชีวิตได้ ผู้ป่วยโรคภูมิต้านทานบกพร่องก็เช่นกัน ไวรัสเอดส์ ( HIV: AIDS) จะเข้าไปทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาว จนกระทั่งร่างกายมีเม็ดเลือดขาวในปริมาณที่ต่ำมาก ไม่สามารถจัดการกับเชื้อโรคต่าง ๆ ที่คอยฉวยโอกาสเข้ามาสู่ร่างกาย ผู้ป่วยโรคเอดสน์ไม่เสียชีวิตด้วยไวรัสเอดส์ แต่เสียชีึวิตด้วยโรคแทรกซ้อนอื่นๆ เช่น โรคปอด วัณโรค โรคตับ หรือแม้กระทั่งไข้หวัดเพียงเล็กน้อยก็อาจลุกลามจนเสียชีวิตได้ ยังมีผู้ป่วยอีกกลุ่มหนึ่ง คือ ภูมิแพ้ (Allergy) มีสาเหตุมาจากเซล์เม็ดเลือดขาวเช่นกัน เราพบว่าในผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิแพ้ ร่างกายมีเซล์เม็ดเลือดขาวที่ดีคอยเตือนไม่ให้รับสิ่งแปลกปลอม คือ สารที่แพ้ กล่าวคือเมื่อร่างกายได้รับสารที่แพ้ เซลล์เม็ดเลือดขาวเหล่านี้จะแตกและหลังสาร ฮิสตามีน ซึ่งมีผลทำให้เกิดอาการแพ้ อาทิเช่น น้ำมูก น้ำตาไกล ผื่นคัน แผลพุพอง บวม เป็นหอบหื่ด จนถึงช็อค หัวใจวายหรือเสียชีวิตได้
เห็ดหลินจือมีผลไปเพิ่มประสิทธิภาพเม็ดเลือดขาว ช่วยให้ร่างกายจัดการกับอาการผิดปกติต่อระบบภูมิคุ้มกัน มีผลดีต่อผู้ที่เป็นภูมิแพ้ เบาหวานที่แผลหายยาก เป็นหวัดเจ็บคอบ่อย ช่วยลดอัตราการเกิดมะเร็ง ทั้งยังช่วยผู้ป่วยเอดส์ให้สามารถดำรงชีิวิตได้อย่างคนปกติ นอกจากนี้เรายังพบอีกว่าในหลินจือมีสารที่เป็นพิษต่อเซลล์เนื้องอกที่ก่อตัวในร่างกาย ป้องกันไม่ให้มันเต็บโต และกลายพันธุ์เป็นเซลล์มะเร็งได้
ร่างกายประกอบด้วยหลอดเลือดแดง หลอดเลือดดำ และหลอดเลือดฝอย คอยส่งอาหาร สารเคมี ออกซิเจน ไปเลี้ยงอวัยวะสำคัญต่าง ๆ เช่น หัวใจ สมอง ตับ ไต และนำของเสียขับออกจากร่างกายในรูปของปัสสาวะและเหงือ เมื่อเราอายุมากขึ้น หรือได้รับสารอาหารที่มีอันตรายต่อหลอดเลือด เช่น อาหารที่เรารับประทานมีสารอนุมูลอิสระที่เป็นผลพลอยได้จากการเผาผลาญอาหาร หรือจากกการหายใจของเราเอง น้ำตาล อินซูลิน บุหรี่ แอลกอฮอล์ ซึ่งล้วนส่งผลให้หลอดเลือดขาดความยืดหยุ่น ความสามารถในการนำพาสารอาหารไปเลี้ยงร่างกายย่อมลดลง หากมีไขมัน คอเลสเตอรอลหรือเกร็ดเลือดมาเกาะตามผนังเส้นเลือด ก็จะทำให้เส้นเลือดตีบตัน จนไม่สามารถส่งอาหารไปทั่วทุกเซลล์ และของเสียก็ไม่สามารถขับถ่ายออกจากเซลล์ได้ ทำให้เกิดภาวะบกพร่อง เช่น ความดันโลหิตสูง ปวดศีรษะแบบไมเกรน เส้นเลือดไปเลี้ยงสมองตีบ เส้นเลือดในสมองแตก ลุกลามเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต โรคหัวใจขาดเลือด โรคกล้ามเนื้อห้วใจโต ไตพิการ เซลล์ตับเสีย สมรรถภาพทางเพศเสื่อมเนื่อกจากหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงอวัยวะเพศไม่ขยายตัว เกิดความผิดปกติของหลอดเลือดดำ เช่น ริดสีดวงทวาร เส้นเลือดขอด แม้แต่ผิวพรรณเองหากมีเลือดมาเลี้ยงไม่เพียงพอ ก็จะทำให้เหี่ยวย่น ผมร่วง แก่กว่าวัย เห็ดหลินจือมีผลขยายหลอดเลือด ลดการทำลายของสารอนุมูลอิสระที่ทำให้ผนังหลอดเลือดแข็งตัว มีผลลดการเกาะตัวของไขมัน คอเลสเตอรอล หรือเกล็ดเลือด ในหลอดเลือด ช่วยลดการเกิดภาวะดังกล่าวข้างต้น ผลดีที่น่าสนใจ คือ การเสริมสมรรถภาพทางเพศ โดยช่วยขยายหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงอวัยวะเพศ และผลดีในการชะลอความแก่ ไม่เพียงแต่ผิวพรรณเท่านั้น แต่ชะลอการเสื่อมสภาพของอวัยวะภายในด้วย เช่น สมอง หัวใจ ตับ ไต เป็นต้น
การทำงานของอวัยวะสำคัญต่างๆ มีศูนย์สั่งงานมาจากสมองโดยผ่านระบบประสาท ซึ่งโยงอยู่ทั่วร่างกายทำงานโดยการสื่อประสาท และยังมีหลอดเลือดนำสารอาหารและออกซิเจนมาเลี้ยง ซึ่งหากเกิดความผิดปกติของสารสื่อประสาท หรือระบบหลอดเลือดที่มาเลี้ยงเกิดตีบตัน ก็ย่อมส่งผลให้การทำงานของสมองบกพร่องเำกิดภาวะผิดปกติ เช่น อัมพฤกษ์ อัมพาต หมดสติ ปลายแขนขาชา กล้ามเนื้อแขนขาลีบ เพราะไม่มีเส้นประสาทมาเลี้ยง อาจเกิดความพิการได้
หลินจือจัดเป็นสารปรับสมดุล ที่สามารถลดความเครียดในสมอง และเสริมสร้างสื่อประสาทแก่สมอง กระตุ้นระบบประสาท จนถึงสามารถปรับให้การทำงานของสมองกลับคืนภาวะปกติได้ ช่วยลดความพิการที่เกิดจากการเสื่อม และช่วยให้ระบบหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมองทำงานดีขึ้น ทั้งยังเพิ่มปริมาณออกซิเจนที่ไปเลี้ยงสมองให้สูงขึ้นถึง 1.5 เท่า เราพบว่าผู้รับประทาฯหลินจือเป็นประจำ ระดับความเครียดจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งสามารถช่วยลดปริมารการใช้ยาคลายเครียด ซึ่งส่งผลถึงอันตรายการเกิดโรคร้ายที่ตามมาจากความเครียดได้
ร่างกายคนเรามีต่อมอยู่ 2 ประเภท คือ ต่อมมีท่อ และต่อมไร้ท่อ เพื่อส่งสารเคมีหรือฮอร์โมนออกมาทำหน้าที่ต่าง ๆ ต่อมมีท่อ คือต่อมที่หลั่งสารผ่านท่อสู่ร่างกาย เช่น ต่อมน้ำลายในช่องปาก
จะหลังน้ำย่อยออกมาในขณะเราเคี้ยวอาหาร ต่อมเหงื่อช่วยขับเหงื่อของเสียออกจากร่างกาย และยังมีต่อมอีกกลุ่มหนึ่งที่สำคัญมาก หากผิดปกติจะทำให้ร่ากายเกิดภาวะผิดปกติต่าง ๆ นั่นคือ ต่อมไร้ท่อ เป็นต่อมที่หลังสารเคมี หรือฮอร์โมนสู่ร่างกายโดยไม่ผ่านท่อ เช่น ต่อมไทรอยด์ ซึ่งหลั่งฮอร์โมนโทรอกซิน มีผลช่วยควบคุมระบบเผาผลาญอาหารของร่างกาย หรือต่อมใต้สมองที่หลั่ง Growth Hormone ช่วยเร่งการเจริญเติบโตในเด็ก และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในผู้ใหญ่หรือฟื้นความเป็นหนุมสาวให้แก่เราได้
เป็นระบบใหญ่ที่เป็นสาเหตุของความผิดปกติต่าง ๆ มากมายในร่างกาย ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ เช่น โรคหัวใจ ไตวาย ตับแข็ง ไขมันพอกตับ ภาวะขาดสารอาหาร โรคผิวหนัง เป็นต้น สารอาหารหลักที่ร่างกายเราจำเป็นต้องได้รับ คือ กลุ่มโมเลกุลใหญ่ ได้แก่ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน ซึ่งร่างกายต้องได้รับในปริมาณสูง และในอัตราที่สมควร และอีกหลุ่มหนึ่งคือกลุ่มโมเลกุลเล็ก ได้แก่ วิตามิน และแร่ธาตุ ซึ่งร่างกายต้องการในปริมาณน้อย แต่ก็เป็นสิ่งจำเป็นขาดไม่ได้เพราะทำให้ร่างกายขาดความสมดุล
หลินจือประกอบด้วยสารอาหารที่ครบและสามดุล นั่นคือวิตามิน แร่ธาตุ และโปรตีนในปริมาณสูงเพียงพอที่จะเสริมภาวะขาดแคลนต่าง ๆ ของร่างกาย ทั้งยังมีสารอื่น ๆ อีกมากมายที่ช่วยแก้ไขระบบเผาผลาญอาหารให้คืนสู่สภาวะปกติ นอกจากนี้เรายังพบฮอร์โมนชนิดหนึ่งที่สำคัญมากในหลินจือ ซึ่งช่วยกระตุ้นให้วิตามินดี ทำหน้าที่ดูดจับแคลเซี่ยมเข้ากระดูก ช่วยให้กระดูกแข็งแรง ป้องกันภาวะกระดูกพรุนได้และที่สำคัญ หลินจือ มีสารทำให้กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรง ฉะนั้นในผู้ที่รับประทานหลินจือเป็นประจำโอกาสเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจวายจึงมีน้อยมาก
ส่วนหนึ่งงานวิจัยที่เกี่ยวกับเห็ดหลินจือ
รองศาสตราจารย์ ดร.นพมาศ สุนทรเจริญนนท์
ภาควิชาเภสัชวินิจฉัย คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล


ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น